Category: ข่าวสาร
Royal Beauty : ปันรอยยิ้ม ปีที่ 3 พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยด้านมะเร็งเต้านม และสนับสนุนนักศึกษาแพทย์ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อต่อยอดช่วยเหลือสังคมต่อไป
Royal Beauty ปันรอยยิ้ม ปีที่3: ร่วมส่งต่อความสวยด้วยความสุข มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และทุนการศึกษาเพื่อต่อยอดช่วยเหลือสังคมต่อไป
คุณเฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท ไลฟ์สตอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Royal Beauty เดินหน้าช่วยเหลือสังคมไทย ด้วยนโยบายที่จะทำสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมา
โครงการปันรอยยิ้มเริ่มขึ้นเมื่อปี 2564 ในช่วงที่มีโรค “โควิด 19” ระบาดอย่างหนัก จนทำให้รอยยิ้มของคนไทยเลือนหายไป บริษัท ไลฟ์สตอรี่ จำกัด จึงอยากทำแคมเปญ “ปันรอยยิ้ม” เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กลับมาสู่ผู้คนอีกครั้ง

ในปี 2566 นี้ ทาง บริษัท ไลฟ์สตอรี่ จำกัด ก็ยังคงเดินหน้าส่งมอบรอยยิ้ม โดยปีนี้ได้มอบเงินบริจาคให้กับมูลนิธิรามาธิบดี จำนวนเงิน 1,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ให้ได้รับการรักษา การผ่าตัดโรคมะเร็งเต้านม และสนับสนุนอุปกรณ์ทางกาแพทย์ ตลอดจนการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจของผู้ป่วย

นอกจากนี้ยังแบ่งส่วนหนึ่งให้กับนักศึกษาแพทย์ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับโอกาสในการศึกษา และพัฒนาทักษะ เพื่อพัฒนาและส่งออกบุคลากรทางการแพทย์ให้มีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 คุณเฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ และคุณธนา รังสิกุล กรรมการบริหารบริษัท ไลฟ์สตอรี่ จำกัด ได้เดินทางมาที่ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อมอบเงินบริจาครอบแรก จำนวนเงิน 300,000 บาท

โดยทาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์รณรัฐ สุวิกะปกรณ์กุล ภาควิชาศัลยศาสตร์ และ ผศ.นพ. เฉลิมพงษ์ ฉัตรดอกไม้ไพร หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นผู้รับมอบ นอกจากนี้ยังได้นำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Royal Beauty มาแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ เพราะนอกจากเราอยากจะสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนแล้ว เรายังอยากจะส่งมอบสิ่งดีๆ เพื่อดูแลบุคลากร ผู้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ทุกคนด้วย
สำหรับใครที่สนใจอยากจะร่วมช่วยเหลือผู้ป่วยด้านมะเร็งเต้านม หรือสนับสนุนนักศึกษาทางการแพทย์ให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อ สามารถบริจาคได้ที่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี https://linktr.ee/ramafoundation


โครงการปันรอยยิ้มจะมีกิจกรรมส่งมอบรอยยิ้มอีกตลอดปี 2566 โปรดติดตามได้ที่
www.royalbeautythailand.com หรือ Fanpage Facebook : Royal Beauty
————-
Royal Beauty ปันรอยยิ้ม: “ส้ม มารี” ร่วมส่งต่อความสวยด้วยความสุข มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ให้แก่มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม
รอยัลบิวตี้ เลือก ส้ม มารี ศิลปินขวัญใจคนรุ่นใหม่ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่สอดคล้องกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของรอยัล บิวตี้ รวมถึงแคมเปญพิเศษที่ได้ร่วมกับ มูลนิธิโอเปอเรชั่น สไมล์ ไทยแลนด์ เพื่อช่วยเหลือค่าผ่าตัดเด็กปากแหว่งเพดานโหว่มาอย่างต่อเนื่อง รวมมูลค่า 500,000 บาท เพื่อให้โอกาสพวกเขา ที่จะสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข โดยส้ม มารี เป็นกระบอกเสียงให้กับแบรนด์ ผ่านทางสื่อโฆษณา รีวิวสินค้า และช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยส้ม มารี ยังขับร้องเพลงสื่อสารองค์กร “ปันรอยยิ้ม” เพื่อบอกว่าคนเราทุกคน ไม่ว่าใครขอแค่มีน้ำใจ ก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้เช่นกัน เพียงส่งรอยยิ้มให้กันก็พอ โดยโครงการ “Royal Beauty ปันรอยยิ้ม” จะดำเนินการต่อเนื่องในปี 2565 เพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป



Royal Beauty ปันรอยยิ้ม: ส่งต่อความสวย ด้วยความสุข และมอบอาหารกล่อง ให้แก่มูนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์


Royal Beauty ปันรอยยิ้ม: ร่วมบริจาคเงิน 1ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี
พร้อมเดิมหน้าเคียงคู่คนไทย สู้โควิดระบาดไปด้วยกัน ในช่วงวิกฤตโควิดระบาดหนักทั่วประเทศแบบนี้ แนวทางที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของทุกคนได้ คือการที่ทุกๆ คน รวมถึงองค์กร ที่ยังคงมีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้อื่นในยามทุกข์ยาก ต้องหันมาช่วยกันลงแรง ลงใจ ออกมาช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้เราฝ่าฟันวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
“ช่วงเวลาแบบนี้อยากให้ทุกคนยื่นมือช่วยเหลือกัน ทำในแบบที่คุณทำได้ ทำให้เต็มที่ในแบบที่แต่ละคนทำไหว ถ้ามันเต็มที่แล้ว แค่ส่งรอยยิ้มให้กัน ใหกำลังใจกันและกัน ก็เพียงพอแล้ว”
คุณเฉลิมพงษ์ เล่าถึงที่มาของแคมเปญ Royal Beauty ปันรอยยิ้ม โดยมีแผนการมอบเงินและสินค้ารวมมูลค่า 6 ล้านบาทให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด
ให้ความช่วยเหลือแบบทันทีด้วยการบริจาคเงินจำนวน 1,000,000 บาท และผลิตภัณฑ์ Royal Beauty ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี เพื่อให้การสนับสนุนแก่ทีมด่านหน้าที่ได้ผลกระทบหนักมากที่สุด และจัดสรรให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องการ ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ให้ถึงมือพนักงาน และบุคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสูง รวมไปถึงโรงพยาบาลสนาม ศูนย์อนามัยทั่วประเทศ ทัณฑสถานหญิง ชุมชนต่างๆ ทุกสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะกลุ่มลูกค้าเราเท่านั้น
เรื่องธุรกิจและการหารายได้อาจต้องมองเป็นเรื่องรอง แต่การยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันและกันเป็นิส่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เราทุกคนผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

Royal Beauty ปันรอยยิ้ม: สู้โควิด พร้อมแนวทางเดินหน้าช่วยเหลือคู่คนไทย
จุดเริ่มต้นของแคมเปญ Royal Beauty: ปันรอยยิ้ม เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่สังคมเกิดขึ้นด้วยเหตุใด
บ. ไลฟ์สตอรี่ มีนโยบายที่จะทำสิ่งดีๆคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมา โดยที่ผ่านมา มีการร่วมกับมูลนิธิต่างๆเช่น Operation Smile Thailand ช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ โดยจะช่วยทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยเดือนละ 1คน อย่างต่อเนื่องมาตลอด และมีการบริจาคสินค้าให้กับมูลนิธิต่างๆเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ด้อยโอกาสมาอย่างสม่ำเสมอ
ในสภาวการณ์โควิดระบาดในรอบนี้ ทุกๆ วันมีแต่ข่าวสารที่ทำให้รอยยิ้มเลือนหายไปจากพี่น้องคนไทย เราจึงคิดอยากทำแคมเปญ ‘ปันรอยยิ้ม’ ขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้คน ด้วยการแบ่งปันน้ำใจส่งมอบเงินช่วยเหลือ ของใช้จำเป็นให้กับมูลนิธิทางการแพทย์ มูลนิธิจิตอาสาต่างๆ ทั้งบุคลากรด่านหน้า แพทย์ พยาบาล และรวมถึงบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานเก็บขยะ พนักงานขับรถ ขสมก. พ่อค้าแม่ค้า ฯลฯ

เป้าหมายหลักแห่งแรงขับเคลื่อนของโครงการ Royal Beauty: ปันรอยยิ้ม คืออะไร
“ช่วงเวลาแบบนี้อยากให้ทุกคนยื่นมือช่วยเหลือกัน ทำในแบบที่คุณทำได้ ทำให้เต็มที่ในแบบที่แต่ละคนทำไหว ถ้ามันเต็มที่แล้ว แค่ส่งรอยยิ้มให้กัน ให้กำลังใจกันและกัน ก็เพียงพอแล้ว” คุณเฉลิมพงษ์ เล่าถึงที่มาของแคมเปญ Royal Beauty ปันรอยยิ้ม โดยมีแผนการมอบเงินและสินค้ารวมมูลค่า 6 ล้านบาทให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการทำงานครั้งนี้ 3 ข้อ
ข้อแรก คือให้ความช่วยเหลือแบบทันที ด้วยการบริจาคเงินและสินค้าให้กับผู้ที่มีความต้องการแบบเร่งด่วน เริ่มด้วยการมอบเงิน 1 ล้านบาทให้มูลนิธิรามาธิบดี เพื่อให้การสนับสนุนแก่ทีมงานด่านหน้าที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในตอนนี้ เพื่อให้ทางหน่วยงานไปจัดสรรตามความต้องการ และมอบของช่วยเหลือหน่วยงานที่ทำงานเพื่อสาธารณะที่มีโอกาสได้รับความเสี่ยงสูง เริ่มจากมอบสิ่งของจำเป็นเช่นสบู่ และเจลแอลกอฮอล์ให้กับ กรุงเทพมหานคร เพื่อแจกจ่ายให้พนักงานกวาดถนน และพนักงานเก็บขยะทุกคนทั่วกรุงเทพฯ และมอบของให้มูลนิธิต่างๆที่มีความจำเป็น อาทิมูลนิธิคนตาบอด มูลนิธิช่วยเหลือสตรีต่างๆ และรวมถึงทัณฑสถานหญิง ในหลายๆจังหวัด
“สาเหตุที่เราเลือกส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังฑัณฑสถานเหล่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดเยอะมากในหลายๆทัณฑสถาน และเรามีแนวคิดว่าไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจเคยผิดพลาดไป แต่เค้าก็น่าจะยังได้รับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็มีโอกาสที่จะได้ดูแลตัวเอง รักตัวเอง ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้บ้าง

ข้อสอง เพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้กันและกัน ให้ทุกคนมีรอยยิ้ม เราส่งต่อรอยยิ้มด้วยการ มอบสิ่งของจำเป็น ส่งต่อผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอลล์ สบู่ กระจายไปตามจุดต่างๆ เช่น จุดบริการที่มีการตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลสนาม และยังมีการแจกแยกย่อยในชุมชนต่างๆ ทุกสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเราเท่านั้น แต่เน้นไปที่คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดโรคระบาดได้ นอกจากนี้ยังได้กระจายของไปยังศูนย์อนามัยทั่วประเทศ ที่มีความต้องการ ผ่านการส่งข้อความมาทางเพจเฟสบุคของรอยัลบิวตี้

ข้อสาม เพื่อเป็นการสื่อสารให้องค์กรต่างๆ หรือใครก็ตามที่ยังมีกำลังพอ ให้ออกมาช่วยกันทำแคมเปญในลักษณะเดียวกัน ออกมาช่วยเหลือกันและกัน ทุกคนได้รับผลกระทบ แม้แต่เราเอง ‘ไลฟ์ สตอรี่’ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่นาทีนี้ เรื่องธุรกิจและการหารายได้อาจต้องมองเป็นเรื่องรอง แต่การยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันและกันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เราทุกคนผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

มารู้จักกับผู้บุกเบิกตลาดครีมซองรายแรกๆ ของไทย บริษัท ไลฟ์ สตอรี่ (รอยัลบิวตี้) จำกัด เริ่มต้นก่อตั้งได้อย่างไร
บริษัท ไลฟ์ สตอรี่ (รอยัลบิวตี้) จำกัด ได้นำสกินแคร์แบรนด์ ‘รอยัลบิวตี้’ ออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2558 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมา ไม่เพียงแต่สาวๆในประเทศไทย แต่ยังขายดีไปถึงประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น ลาว เวียดนาม พม่า ฯลฯ
บ.ไลฟ์สตอรี่ ถือเป็นพาร์ทเนอร์ ในเครือของ บ.สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า ถุงเท้า และชุดชั้นในคาร์สัน ยาจุดกันยุงตราห่านฟ้า ที่ได้รับการยอมรับมากว่า 40 ปี บ.ไลฟ์สตอรี่ เกิดขึ้นจากผู้ก่อตั้งที่เป็นเพื่อนกัน 3 คน ที่เป็นผู้บริหารการตลาดให้กับแบรนด์ใหญ่หลายสิบแบรนด์มาก่อน ที่หันมาสร้างธุรกิจของตัวเอง ด้วยความตั้งใจที่ว่าอยากจะจะมีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องราวดีๆให้กับคนอื่นๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ไลฟ์สตอรี่ ทำธุรกิจที่ส่งเสริมให้ชีวิตคนดีขึ้น และช่วยเหลือคนอื่นๆไปพร้อมๆกัน โดยเริ่มจากการสร้างผลิตภัณฑ์สกินแคร์ คุณภาพที่ดีจริงๆ ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้จริงๆ ที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนดูดีขึ้นได้จริงๆ เป็นธุรกิจแรกในการเปิดตัว
ปัจจุบันแบรนด์รอยัลบิวตี้ มีสินค้ามากกว่า 40 SKU โดยจะมีสินค้าประเภทสกินแคร์ และคอสเมติก ครบทุกประเภท ทั้งบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็น ครีม เซรั่ม กันแดด ลิปสติก รองพื้น สบู่ สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่เป็นที่รู้จักของสาวๆทุกคน คือ เซรั่มรอยัลบิวตี้วิตซี ที่ขายดีที่สุดในเซเว่นอีเลฟเว่นมาอย่างยาวนาน สินค้าแบรนด์ Royal
Beauty มีช่องวางจำหน่ายในแทบจะทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ซีเจมาร์ท ไนน์บิวตี้, Big C, แฟมิลี่มาร์ท, eveandboy และร้านค้าเครื่องสำอางทั่วประเทศ

จากผลกระทบโควิดระบาด ไลฟ์ สตอรี่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอย่างไรบ้าง
โควิดระบาดส่งผลกระทบธุรกิจทุกวงการ ทุกอุตสาหกรรม สำหรับบริษัทไลฟ์ สตอรี่ จำกัดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เริ่มจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ลดโอกาสในการจัดจำหน่ายน้อยลง บางร้านค้าก็ต้องปิดบริการ หรือเซเว่นที่พื้นที่สุ่มเสี่ยง ปิดช่วงกลางคืน ระยะเวลาการขายก็หายไป ลูกค้าได้รับกระทบหมด กำลังในการจับจ่ายใช้สอยก็รับผลกระทบอยู่แล้ว
ตอนนี้ถ้าหากต้องมองหาแง่ดีสำหรับในวิกฤตนี้คือเมื่อตลาดทั้งหมดชะลอตัว ก็ถึงเวลาที่องค์กรต่างๆ จะลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนในยุค New Normal มากขึ้น คนในปีนึง พฤติกรรมของผู้บริโภคก็ต้องปรับ ทางบริษัทก็ต้องปรับตัว ทั้งเรื่องการกระจายสินค้า การส่งมอบสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างมากที่สุด กระจายสินค้าออนไลน์มากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ครีมซองที่ขับเคลื่อนด้วย 3 ปัจจัยหลัก: ความน่าเชื่อถือ คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ในช่วงบุกเบิกตลาดครีมซองตั้งแต่ 7 ปีที่แล้วนั้น ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ที่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะไม่ค่อยสนใจครีมซองเพราะมองภาพลักษณ์ว่าเป็นของแถม ของแจก ความท้าทายของสินค้าประเภทนี้คือการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนโดยการยึดคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน ที่ต้องการทดลองสินค้าแบบใหม่ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเยอะ ถือเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์รูปแบบหนึ่ง ทำให้ผู้บริโภคสนุกกับการชอปปิงได้ทุกวัน
หัวใจหลักสามข้อที่ Royal Beauty ยึดถือคือเรื่องคุณภาพ ราคาที่จับต้องได้ แค่เพียง 39 บาทใครๆ ก็สามารถซื้อได้ และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แตกต่าง โดยการยึดรูปแบบเป็นผลิตภัณฑ์แบบภาพลักษณ์สินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์ ถ้าพูดถึงจุดเด่นของสินค้า เฉลิมพงษ์มองว่าไม่ใช่เรื่องราคา แต่เป็นจุดตั้งต้นแต่แรกที่เริ่มมา คือสินค้าที่มีคุณภาพที่ทำให้ลูกค้ายังคงสนับสนุนเรื่อยมา
ด้วยความท้าท้ายที่ผ่านมาทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ Royal Beauty มีอะไรบ้าง
สำหรับผลิตภัณฑ์ซองที่ขายดีที่สุดของ Royal Beauty มีหลากหลายชนิดด้วยกัน มีทั้งคอลลาเจน, เซรั่มวิตซี นอกจากนี้ก็ยังมีไฮยาลูรอน เซรั่ม, เพอร์เฟกต์ไวท์ครีม, กลูตา เซรั่ม, แพลงตอน, สครัปสูตรมะขามวิตซี, ครีมกันแดดวิตซี, สบู่วิตซี, สบู่ไฮยาลูรอน, สบู่กลูตา, ชูตติ้งเจล, อโลเวลาเจล มีบีบี ซีซีครีม ลิปสติกแปรงจุ่มทาได้ทั้งแก้ม ตา สินค้าล่าสุดที่ออกมาคือ เฟิรมมิ่งเจล ที่เหมาสำหรับคนยุคนี้ที่อยู่บ้านตลอดเวลา ทานเยอะ จนน้ำหนักตัวเพิ่มง่าย ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้นวดทั่วเรือนร่างเพื่อความกระชับได้
สำหรับแบรนด์น้องใหม่ ตอนนี้คือ Clear Face ที่มีกลุ่มลูกค้าคือเด็กนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือกลุ่มคนทำงานเริ่มต้น เป็น First Jobber ซึ่งก็มีทั้งผลิตภัณฑ์แบบชูตติ้งเจล ทาได้ทั้งตัว, ชูตติ้งอโลเวร่า
กว่าจะมีวันนี้ของบริษัท ไลฟ์ สตอรี่ จำกัด ถือว่าไม่ง่ายเลยสำหรับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ตลาดครีมซองผ่านแบรนด์ Royal Beauty ให้มีความน่าเชื่อถือ มีราคาจับต้องได้และมีคุณภาพสูงไม่แพ้สินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์
เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำธุรกิจของไลฟ์ สตอรี่ ที่พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ควบคู่ไปกับเป้าหมายที่ต้องการผลักดันสังคมให้ดีขึ้นผ่านแคมเปญให้ความช่วยเหลือผู้คนอย่างหลากหลายน่าจะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ เมื่อลูกค้าหรือผู้บริโภคประสบวิกฤต การร่วมกันฝ่าฟันวิกฤต ไปกับลูกค้าจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ประกอบการยิ่งต้องให้ความสำคัญ
Royal Beauty ปันรอยยิ้ม: ส่งต่อความห่วงใยมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวให้แก่พนักงานรักษาฯ ลดความเสี่ยงโควิด-19
งานมอบรางวัลที่สุดของ Beauty of New Generation แห่งปี จากนิตยสารสุดสัปดาห์
ประกาศรางวัล สุดสัปดาห์ Beauty Awards 2020 : SKINCARE
BEST OF COLLAGEN SERUM :
สุดยอดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ที่ได้รับรางวัลขายดีที่สุดตลอด 4 ปี ที่เซ่เว่น และล่าสุดได้รับรางวัล สุดสัปดาห์ Beauty Award 2020 นั่นคือ “รอยัลบิวตี้ คอลลาเจน วิตซี” เซรั่ม 2in1 เข้มข้น ที่นำสารสกัดหลักสุดฮิตคอลลาเจน และวิตซี มารวมกัน ตอบโจทย์ปัญหา “ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยสิว” ที่สาวๆ เคยใช้ต่างก็พึงพอใจกันสุดๆ

เซรั่มเนื้อสัมผัสดี ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ความชุ่มชื่น พร้อมบำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใสด้วยคุณค่าจากคอลลาเจนและวิตาซี
Best of Facial Cleanser:
ตามมาด้วยน้องใหม่ ที่ได้รับรางวัล สุดสัปดาห์ Beauty Award 2020 ด้วยเช่นกัน “สบู่คอลลาเจนวิตซี” เป็นสบู่กลีเซอรีนที่ล้างสะอาดอ่อนโยนพร้อมบำรุงผิวไปในตัว ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส รอยสิว จุดด่างดำจางลง สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ที่ดีได้แล้ววันนี้ที่เซเว่นทุกสาขา ในราคาเพียง 59 บาทเรียกได้ว่าเป็นคู่หูดูโอ้ สบู่-เซรั่มวิตซีตัวเด็ดตัวดังประจำปี 2020 นี้เลยจริงๆ

สบู่คอลลาเจนกลิ่นหอม ล้างหน้าได้สะอาด มีส่วนผสมของคอลลาเจนและวิตามินซี หาซื้อง่ายจากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน
เจาะกลยุทธ์ เจ้าพ่อครีมซอง Royal Beauty จาก ‘หนุ่ม-เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์’ ทายาทคาร์สันที่ธุรกิจความงามก็เปรี้ยง

นอกจากนี้ สิ่งที่ หนุ่ม เฉลิมพงษ์ เล็งเห็นเป็นโอกาสทางธุรกิจก็คือ ในช่วง 3-4 ปีก่อน บรรดาครีมซองสกินแคร์ที่ร้านสะดวกซื้อ ก็ยังไม่มีมากมายเท่ากับตอนนี้ หรือบางแบรนด์ที่มาวางๆ ก็จะมีภาพลักษณ์เด็กๆ เป็นพวกตัวการ์ตูน ซึ่งดูไม่น่าเชื่อถือนัก ทำให้บางคนที่พอจะมีเงินซื้อสินค้าแพงก็รู้สึกว่าภาพลักษณ์กับคุณภาพมันน่าจะไปทางเดียวกัน ดังนั้น ก็น่าจะมีอะไรที่แตกต่าง สินค้าที่มีคุณภาพบวกกับอิมเมจที่ดูน่าเชื่อถือ
“เรียนตามตรงว่ามันไม่ค่อยจะน่าใช้นัก สินค้าบางแบรนด์เป็นลายเด็กๆ เราก็คิดว่าจริงๆ คนที่เขาอาจจะมีรายได้ไม่สูงมากนัก เขาก็พอจะมีเงินที่จะซื้อของดีได้ในราคาย่อมเยาว์ แล้วเราก็แค่ทำสินค้าคุณภาพ ออกแบบดีไซน์ให้เรียบหรู ดูคลีน ดูน่าใช้ เหมือนกับเวลาที่เราเดินห้างแล้วเห็นพวกเคาท์เตอร์แบรนด์ต่างๆ ที่เขาเลือกใช้สีในการออกแบบกันก็จะไม่ฉูดฉาด ดูแพง ดังนั้น เราก็น่าจะทำได้ ทำของคุณภาพที่ราคาไม่สูงแต่ดูแพง ดูหรู”

อีกประเด็นที่สำคัญที่เราเห็นว่าเป็นสายตาที่แหลมคมของทีม Royal Beauty ก็คือการจับเทรนด์ของผู้บริโภคได้ หนุ่ม เฉลิมพงษ์ บอกกับเราว่า เรามองเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคในช่วงนั้นได้ด้วยว่า ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนวิธีการใช้เงิน จากเดิมที่ชอบซื้อผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบบขวดใหญ่ๆ เยอะๆ แต่ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เขาอยากลองอะไรใหม่ๆ มากกว่า และที่สำคัญคือ ความเป็น Loyalty ในแบรนด์ของผู้บริโภคเริ่มลดลง ผู้บริโภคอยากลองสิ่งใหม่ๆ อยากลองใช้สิ่งที่คนอื่นรีวิวหรือพูดถึงกันบ้าง ไม่ค่อยมีใครซื้อของเดิมๆ อีกแล้ว
ประจวบเหมาะกับที่ร้านสะดวกซื้อในตอนนั้น ซึ่งก็คือเซเว่นฯ เองก็เริ่มจับตลาดครีมประเภทซองพอดี เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบต่างๆ แล้วเราก็เริ่มทยอยออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาเรื่อย ในช่วง 2 ปีกว่าทั้งที่เราเป็น้องใหม่ในตลาดแต่ปรากฏว่าเราได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะด้วยสินค้าของเรามีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง พร้อมกับการออกแพ็กเกจที่แตกต่าง โดยเน้นความน่าเชื่อถือ เน้นภาพลักษณ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน เน้นความคลีนและหรูหราอย่างที่กล่าวไป ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค

สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวที่โดดเด่นและขายดี ที่เป็น Best Seller ได้แก่1.Collagen Serum Vitamin C 2.Plankton Baby (ย้ำว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก) และ 3.Perfect White Cream ทั้งนี้ ของเราจะเน้นการใช้ส่วนผสมแบบ เอ็กซ์ซอติก อินกรีเดียนซ์ (Exotic ingredients)ซึ่งจะแตกต่างจากบรรดาแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มักจะเน้นการลอนช์ออกมาตามสายการผลิต แต่ของเราค่อนข้างจะปรับเปลี่ยนบ่อย ออกสูตรที่หลากหลายตามเทรนด์ตลาด เช่น ตอนนี้เขานิยมเมือกหอยทากเราก็มี หรือตอนนี้เขานิยมแพลงก์ตอนเราก็มีเหมือนกัน ซึ่งเราก็ไม่ได้กังวลการแข่งขันกับแบรนด์เมนสตรีม เพราะว่าอย่างที่บอกว่าผู้บริโภคมีความลอยัลตี้ลดลง และเรามั่นใจในคุณภาพ
กลยุทธ์ทางการตลาดที่ หนุ่ม เฉลิมพงษ์ บอกว่าประสบความสำเร็จมากกับผลิตภัณฑ์แบบซองก็คือ เราก็มีการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ และการใช้บล็อกเกอร์รีวิวสินค้า เช่นเดียวกับตลาดบิวตี้อื่นๆ งบการตลาดเราเน้นออนไลน์ก็จริงแต่ก็ไม่ได้ใช้จำนวนเงินที่สูงมากเพราะเราก็ไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ ตอนนี้สัดส่วนการตลาดออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 10%

“แต่สิ่งที่คิดว่าสำคัญที่สุดก็คือ การที่ผู้ใช้จริงบอกต่อและผู้ใช้จริงรีวิวเองด้วย มันคือการที่ User generate content เอง ยุคนี้การที่แบรนด์ทอล์กอาจจะไม่ได้ผลอีกต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ Royal Beauty ประสบความสำเร็จกว่า 90% เป็นการบอกต่อของผู้ใช้จริง”
ยอดการเติบโตของเราเป็นดับเบิ้ลดิจิ เรามีกำไรมากกว่า 100% ทุกปี ตั้งแต่เริ่มต้นทำมา ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เป็นความท้าทายของธุรกิจประเภทนี้คือ การเปลี่ยนแปลงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เราก็ต้องใช้กลยุทธ์ที่ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน

นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่เป็นความตั้งใจที่สำคัญของคอร์ธุรกิจจาก Life Story ก็ยังอยู่เหมือนเดิม นั่นคือการทำสิ่งดีๆ ให้สังคม หนุ่ม เฉลิมพงษ์ บอกว่า ในขณะที่รันธุรกิจเจตจำนงค์ของธุรกิจจากบริษัทของเราก็ยังอยู่ด้วย นั่นคือเราไม่ต้องให้ผู้บริโภคที่นิยมครีมออนไลน์ราคาถูกหันไปซื้อของแบบนั้น โดยการทำให้เกิดของคุณภาพราคาไม่แพงที่หาซื้อได้ง่าย ได้มาตรฐานและไม่เสี่ยงกับอันตรายใดๆ นั่นคือมิสชั่นของเรายังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงคือการจำหน่ายสินค้าคุณภาพ ที่ช่วยยกระดับผู้บริโภคได้
สำหรับคำแนะนำให้กับผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจประเภทนี้ หนุ่ม เฉลิมพงษ์ ระบุว่า มันคือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ อย่างแรกเลยคุณต้องมั่นใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ของคุณดีจริง เพราะการที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้คุณต้องผ่านมาตรฐานที่ทางร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซเว่นฯ วัตสัน บูทส์ ฯลฯ มีไว้ ซึ่งเขาตั้งไว้สูงมาก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะใช้ช่องทางจัดจำหน่ายตรงนี้ได้

ท้ายที่สุด ทิศทางต่อไปของ RoyalBeauty ที่เราจะได้เห็นกันเร็วๆ นี้ก็คือ ก้าวต่อไปเราจะจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่ม Yong Generation อายุน้อยลงมากกว่าเดิม และจะทำออกมาเป็นซีรี่ย์ต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะตรงใจกับกลุ่มวัยรุ่น เป็น Royal Beauty ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอายุน้อยวัยรุ่น ซึ่งคาดว่าจะลอนช์ในช่วงคิวสอง
Copyright © MarketingOops.com
- 1
- 2